จัดฟันดามอน (Damon) คืออะไร พร้อมข้อดี-ข้อเสียของการจัดฟันแบบนี้

จัดฟันดามอนเป็นการการจัดฟันแบบไร้ยาง (Self ligating braces) ที่ใช้ตัวยึดแบบพิเศษแทนเพื่อขึงตัวลวดเครื่องมือไว้ แทนที่จะใช้ยางรัดเหมือนการจัดฟันโลหะแบบดั้งเดิม ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่ความรวดเร็วในการรักษา และทำให้คนไข้ไม่ต้องมาพบทันตแพทย์บ่อยเพื่อคอยปรับเครื่องมือ นอกจากนี้ การจัดฟัน Damon ยังสามารถที่จะปรับให้ตัวลวดจัดฟันขยับได้ตามอิสระ ทำให้ลดแรกเสียดสีและแรงกดจากตัวเครื่องมืออีกด้วย โดยนวัตกรรมใหม่นี้ ถูกคิดค้นโดยบริษัท Damon ซึ่งเป็นยี่ห้อชองการจัดฟันแบบนี้

แบบการจัดฟัน

การจัดฟันดามอนนั้น สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 แบบ ดังนี้:

  1. จัดฟันแบบดามอนทั่วไป (Damon metal braces ): เป็นการจัดฟันดามอนที่ความคล้ายกับการจัดฟันโลหะ แต่ไม่มียางรัด และถูกแทนที่ด้วยระบบ self ligate bracket หรือลักษณะบานล๊อคเปิดและปิด โดยจะใช้เหล็กสแตนเลสพร้อมระบบเลื่อนไปมาเวลาขยับตัวฟัน ทำให้คนไข้สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น
  2. จัดฟันดามอนแบบใส (Damon clear braces): มีหลักการทำงานเหมือนกับการจัดฟันดามอนข้างต้น แต่ใช้วัสดุสีใสหรือสีเดียวกับฟัน ซึ่งช่วยเพิ่มความสวยงามและทำให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

ข้อดี

  • ไม่ต้องไปพบแพทย์บ่อย: เนื่องจากระบบ self ligate ทำให้ลดการเสียดสีของเครื่องมือกับแก้มหรือเหงือกรวมไปถึงแรงกด ทำให้ไม่จำเป็นต้องไปพบทันตแพทย์บ่อยเพื่อทำการปรับเครื่องมือ
  • ใช้เวลาในการจัดฟันที่เร็วขึ้น: เมื่อเทียบกับการจัดฟันแบบดั้งเดิม การจัดฟันแบบดามอนนั้นมีเวลาในการรักษาที่สั้นกว่า
  • มีสุขอนามัยที่ดีขึ้น: การที่ไม่ได้ใช้ยางรัดลวดเหมือนการจัดฟันแบบเหล็ก ทำให้เศษอาหารเข้าไปติดน้อยลงในเครื่องมือ รวมไปถึงสามารถทำความสะอาดได้ง่ายขึ้นด้วย 
  • สวมใส่สบายมากขึ้น: เมื่อเทียบกับการจัดฟันโลหะ การจัดฟันแบบนี้จะมีความเบาและสบายช่องปากมากขึ้น
  • โดดเด่นด้วยภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น: จัดฟันดามอน โดยเฉพาะแบบใสนั้น ทำให้ดูเป็นธรรมชาติและสวยงาม

ข้อเสีย

  • แตกหักง่าย (เฉพาะแบบใส): การจัดฟัน Damon แบบใสจะมีความเปราะบางมากกว่า แตกหักง่าย เช่นเดียวกับจัดฟันเซรามิก 
  • ค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง: เนื่องจากเทคโนโลยีที่ใช้มีความซับซ้อน จึงมีราคาที่สูงกว่าการจัดฟันส่วนใหญ่
  • กระทบต่อภาพลักษณ์: การจัดฟันดามอนแบบทั่วไป ถึงแม้จะดูดีกว่าแบบเหล็ก แต่ก็ยังมองเห็นเครื่องมืออยู่ดี ทำให้อาจกระทบต่อภาพลักษณ์

ขั้นตอนการจัดฟัน

  1. ปรึกษาทันตแพทย์เพื่อเช็คดูอาการ ตรวจวินิจฉัยโครงสร้างฟัน พร้อมทำประวัติก่อนการจัดฟัน เช่น การพิมพ์ฟัน การถ่ายภาพ การ x-ray รวมไปถึงวางแผนการรักษา
  2. ทำการเคลียร์ช่องปาก เช่น อุดฟัน ขูดหินปูน ผ่าฟันคุด เป็นต้น พร้อมเลือกแบบการจัดฟันว่าจะเป็นแบบธรรมดาหรือแบบใส
  3. นัดหมายติดเครื่องมือจัดฟัน โดยแพทย์จะทำการติดแบร็กเก็ตด้วยวัสดุพิเศษ หลังจากนั้นตัวระบบ self ligate จะถูกทำงานและจะค่อยๆ ทำการเคลื่อนฟันให้เข้าที่
  4. เมื่อติดเครื่องจัดฟันเสร็จแล้ว ทันตแพทย์จะทำการนัดทุก 8-10 อาทิตย์ เพื่อเข้ามาทำการปรับลวดและตำแหน่งเครื่องมือจัดฟันให้เป็นไปตามแผนการ 
  5. หลังจากจัดฟันดามอนครบตามกำหนดแล้ว แพทย์จะถอดเครื่องมือจัดฟัน แล้วจะพิมพ์ฟันทำรีเทนเนอร์ ซึ่งมีหลากหลายแบบ ได้แก่ รีเทนเนอร์แบบใส รีเทนเนอร์แบบลวด รีเทนเนอร์แบบติดแน่น และรีเทนเนอร์แบบโลหะ เพื่อใช้คงสภาพฟัน ซึ่งควรใส่ตามที่ทันตแพทย์แนะนำ เพื่อไม่ให้ฟันเคลื่อนกลับไปตำแหน่งเดิม 

ราคาและระยะเวลาการจัดฟัน

จัดฟันโลหะจะมีราคาโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 65,000-80,000 บาท และจะมีระยะเวลาในการรักษาประมาณ 1-2.5 ปี ขึ้นอยู่กับแต่ละเคส ซึ่งจะเร็วกว่าการจัดฟันแบบดั้งเดิม ซึ่งในปัจจุบัน คลินิกและโรงพยาบาลส่วนใหญ่มีแผนการผ่อนชำระรายเดือน ทำให้คนไข้ไม่จำเป็นต้องชำระเงินค่ารักษาเต็มจำนวน

ข้อควรปฏิบัติในช่วงจัดฟัน

ระหว่างการจัดฟัน ขั้นตอนการดูแลตัวเองคร่าวๆ มีดังนี้:

  • ดูแลความสะอาดช่องปากอย่างสม่ำเสมอ เช่น แปรงฟันหลังอาหารทุกมื้อ โดยใช้แปรงสีฟันขนอ่อน และ ใช้ใไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ซึ่งถึงแม้การจัดฟันแบบนี้จะทำความสะอาดได้ง่าย ก็ไม่ควรปล่อยประละเลย และควรทำความสะอาดให้ดีเป็นประจำ
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่มีความเหนียว แข็ง รวมไปถึงอาหารที่มีรสหวานหรือเปรี้ยวสูง เช่น หมากฝรั่ง ลูกอม เป็นต้น เพราะอาหารเหล่านี้อาจไปรบกวนการเคลื่อนที่ของตัวฟันหรือสร้างความเสียหายให้กับเครื่องมือจัดฟันได้
  • พยายามหลีกเหลี่ยงการกระทบกระแทกกับตัวแบร็คเก็ตจัดฟัน เช่น การกัดเล็บ การกัดของแข็ง และหากจะต้องลงเล่นกีฬาที่อาจได้รับการกระทบกระเทือน ก็ควรที่จะใส่ยางกันฟัน
  • ไปพบทันตแพทย์ตามนัดทุกครั้ง

วิธีการดูและตัวเองหลังจัดฟันเสร็จ

หลังจัดฟันดามอนเสร็จ ขั้นตอนการดูแลตัวเองคร่าวๆ มีดังนี้:

  • ขยันใส่รีเทนเนอร์ตามที่ทันตแพทย์สั่งในช่วง 1-2 ปีแรกหลังจัดฟัน เพื่อป้องกันการเคลื่อนตัวกลับของฟันหรือที่เรียกว่าฟันล้ม
  • หมั่นดูแลรักษาความสะอาดของฟัน เช่น แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และ ใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง
  • พยายามเลี่ยงการรับประทานอาหารเหนียวหรือแข็งในช่วงแรกๆ หลังจัดฟันเสร็จ เพื่อให้ฟันเข้าที่สมบูรณ์ก่อน
  • ไปพบทันตแพทย์ตามนัดเพื่อเช็คดูการเคลื่อนตัวของฟันและทำการแก้ไขแต่เนิ่นๆ หากไม่เป็นไปตามแผนการรักษา